Greensense โซลูชันพันธมิตรด้านการชาร์จอัจฉริยะของคุณ
  • เลสลีย์: +86 19158819659

  • EMAIL: grsc@cngreenscience.com

เครื่องชาร์จอีซี

ข่าว

จะทราบได้อย่างไรว่าการชาร์จ EV ฟรีหรือไม่? คู่มือฉบับสมบูรณ์ในการค้นหาสถานีชาร์จฟรี

เนื่องจากความเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ผู้ขับขี่จึงมองหาวิธีลดต้นทุนการชาร์จมากขึ้นเรื่อยๆ ทางเลือกที่น่าดึงดูดใจที่สุดอย่างหนึ่งคือการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฟรี แต่คุณจะทราบได้อย่างไรว่าสถานีใดไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม

แม้ว่าการชาร์จไฟฟ้าฟรีในที่สาธารณะจะเริ่มเป็นที่นิยมน้อยลงเนื่องจากต้นทุนไฟฟ้าที่สูงขึ้น แต่สถานที่หลายแห่งยังคงให้บริการชาร์จไฟฟ้าฟรีเพื่อเป็นแรงจูงใจสำหรับลูกค้า พนักงาน หรือผู้อยู่อาศัยในท้องที่ คู่มือนี้จะอธิบายรายละเอียดดังต่อไปนี้:

✅ หาสถานีชาร์จ EV ฟรีได้ที่ไหน
✅ วิธีการตรวจสอบว่าเครื่องชาร์จนั้นว่างจริงหรือไม่
✅ ประเภทการชาร์จฟรี (สาธารณะ, ที่ทำงาน, ร้านค้าปลีก ฯลฯ)
✅ แอปและเครื่องมือสำหรับค้นหาเครื่องชาร์จ EV ฟรี
✅ ข้อจำกัดและต้นทุนที่ซ่อนอยู่ที่ต้องระวัง

เมื่อสิ้นสุดหลักสูตร คุณจะรู้แน่ชัดว่าจะค้นหาโอกาสในการชาร์จไฟฟรีและเพิ่มการประหยัดสูงสุดในการเดินทางด้วยรถ EV ของคุณอย่างไร


1. คุณสามารถหาสถานีชาร์จ EV ฟรีได้ที่ไหน

โดยทั่วไปแล้วการชาร์จไฟฟรีจะมีอยู่ที่:

ก. ร้านค้าปลีกและศูนย์การค้า

ธุรกิจหลายแห่งเสนอบริการชาร์จฟรีเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น:

  • IKEA (เฉพาะสาขาที่เลือกในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา)
  • Tesla Destination Chargers (ตามโรงแรมและร้านอาหาร)
  • ซูเปอร์มาร์เก็ต (เช่น Lidl, Sainsbury's ในสหราชอาณาจักร, Whole Foods ในสหรัฐอเมริกา)

ข. โรงแรมและภัตตาคาร

โรงแรมบางแห่งให้บริการชาร์จฟรีสำหรับแขก เช่น:

  • แมริออท, ฮิลตัน และเบสท์เวสเทิร์น (แตกต่างกันไปตามสถานที่)
  • Tesla Destination Chargers (มักฟรีเมื่อเข้าพักและรับประทานอาหาร)

C. การชาร์จสถานที่ทำงานและสำนักงาน

บริษัทหลายแห่งติดตั้งเครื่องชาร์จฟรีในสถานที่ทำงานให้กับพนักงาน

D. เครื่องชาร์จสาธารณะและเทศบาล

เมืองบางเมืองให้บริการชาร์จไฟฟรีเพื่อส่งเสริมการนำ EV มาใช้ เช่น:

  • ลอนดอน (บางเขต)
  • อเบอร์ดีน (สกอตแลนด์) – ฟรีจนถึงปี 2025
  • ออสติน, เท็กซัส (สหรัฐอเมริกา) – สถานีสาธารณะบางแห่ง

อี. ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์

ตัวแทนจำหน่ายบางรายอนุญาตให้ผู้ขับขี่ EV ทุกคน (ไม่ใช่แค่ลูกค้าเท่านั้น) เรียกเก็บเงินได้ฟรี


2. วิธีบอกว่าเครื่องชาร์จ EV ฟรีหรือไม่

สถานีชาร์จบางแห่งไม่ได้แสดงราคาไว้อย่างชัดเจน โปรดตรวจสอบดังนี้:

ก. มองหาฉลากที่ระบุว่า “ฟรี” หรือ “ฟรี”

  • สถานี ChargePoint, Pod Point และ BP Pulse บางแห่งทำเครื่องหมายว่าเป็นเครื่องชาร์จฟรี
  • Tesla Destination Chargers มักจะให้บริการฟรี (ส่วน Superchargers จะต้องเสียเงิน)

B. ตรวจสอบแอปและแผนที่การชาร์จ

แอปเช่น:

  • PlugShare (ผู้ใช้แท็กสถานีฟรี)
  • Zap-Map (เฉพาะในสหราชอาณาจักร เครื่องชาร์จแบบไม่มีตัวกรอง)
  • ChargePoint และ EVgo (บางแห่งมีรายชื่อสถานที่ให้บริการฟรี)

C. อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องชาร์จ

  • เครื่องชาร์จบางเครื่องจะระบุว่า “ไม่มีค่าธรรมเนียม” หรือ “ฟรีสำหรับลูกค้า”
  • บางรายอาจต้องสมัครสมาชิก เปิดใช้งานแอป หรือซื้อ

D. ทดสอบการเสียบปลั๊ก (ไม่ต้องชำระเงิน?)

หากเครื่องชาร์จเปิดใช้งานโดยไม่ต้องใช้การชำระเงิน RFID/บัตร อาจจะไม่มีค่าใช้จ่าย


3. ประเภทของการชาร์จ EV “ฟรี” (พร้อมเงื่อนไขที่ซ่อนอยู่)

เครื่องชาร์จบางรุ่นมีเงื่อนไขฟรี:

พิมพ์ มันฟรีจริงๆเหรอ?
เครื่องชาร์จ Tesla Destination ✅ โดยปกติแล้ว EV ทั้งหมดจะฟรี
เครื่องชาร์จสำหรับร้านค้าปลีก (เช่น IKEA) ✅ ฟรี ขณะชอปปิ้ง
ตัวแทนจำหน่ายเครื่องชาร์จ ✅ มักจะฟรี (แม้สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้า)
เครื่องชาร์จโรงแรม/ร้านอาหาร ❌ อาจต้องเข้าพักหรือซื้ออาหาร
การชาร์จไฟที่ทำงาน ✅ ฟรีสำหรับพนักงาน
พับลิค ซิตี้ ชาร์เจอร์ส ✅ บางเมืองยังคงให้บริการชาร์จฟรี

⚠ ระวัง:

  • ข้อจำกัดเวลา (เช่น 2 ชั่วโมงฟรี หลังจากนั้นจะมีค่าธรรมเนียม)
  • ค่าธรรมเนียมการใช้งาน (หากคุณไม่เคลื่อนย้ายรถของคุณหลังจากการชาร์จ)

4. แอปที่ดีที่สุดสำหรับการค้นหาเครื่องชาร์จ EV ฟรี

ก. ปลั๊กแชร์

  • สถานีฟรีที่ผู้ใช้รายงาน
  • ตัวกรองสำหรับเครื่องชาร์จ “ใช้งานฟรี”

แผนที่ B. Zap (สหราชอาณาจักร)

  • แสดงเครื่องชาร์จแบบฟรีและแบบชำระเงิน
  • ความคิดเห็นของผู้ใช้ยืนยันราคา

C.ChargePoint และ EVgo

  • สถานีบางแห่งกำหนดราคาไว้ที่ 0.00 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh

ง. Google Maps

  • ค้นหา “จุดชาร์จ EV ฟรีใกล้ฉัน”

5. การชาร์จฟรีกำลังจะหายไปหรือไม่?

น่าเสียดายที่เครือข่ายฟรีหลายแห่งในอดีตปัจจุบันมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม รวมถึง:

  • Pod Point (ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งในสหราชอาณาจักรต้องจ่ายเงิน)
  • BP Pulse (เดิมชื่อ Polar Plus ปัจจุบันเป็นแบบสมัครสมาชิก)
  • Tesla Superchargers (ไม่ฟรี ยกเว้นผู้ที่เป็นเจ้าของรถ Model S/X รุ่นแรกๆ)

เพราะเหตุใด? ค่าไฟฟ้าจึงสูงขึ้น และความต้องการก็เพิ่มมากขึ้น


6. วิธีเพิ่มโอกาสในการชาร์จฟรีให้สูงสุด

✔ ใช้ PlugShare/Zap-Map เพื่อค้นหาสถานีฟรี
✔ ชาร์จที่โรงแรม/ร้านอาหารเมื่อเดินทาง
✔ สอบถามนายจ้างของคุณเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินในที่ทำงาน
✔ ตรวจสอบตัวแทนจำหน่ายและศูนย์การค้า


7. สรุป: มีการชาร์จฟรีอยู่ แต่ต้องทำอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฟรีจะลดลง แต่บริการดังกล่าวยังคงมีให้บริการหากคุณรู้ว่าต้องมองหาที่ใด ใช้แอปเช่น PlugShare และ Zap-Map ตรวจสอบสถานที่ตั้งร้านค้าปลีก และตรวจสอบก่อนเสียบปลั๊กเสมอ

เคล็ดลับ: แม้ว่าเครื่องชาร์จจะไม่ฟรี แต่การชาร์จในช่วงนอกชั่วโมงเร่งด่วนและส่วนลดสมาชิกยังช่วยให้คุณประหยัดเงินได้!


เวลาโพสต์: 25 มิ.ย. 2568